Tuesday, August 31, 2010

ใส่รองเท้าอะไรกับชุดนักศึกษา(หรือนิสิต)ดี?

บางมหาวิทยาลัยให้ใส่กางเกงทำงาน บางแห่งก็อนุญาติให้ใส่กางเกงยีนส์ได้ บางแห่งจะใส่อะไรมาก็ไม่ว่า จะเป็นเสื้อยืด กางเกงฟุตบอล รองเท้าแตะก็ไม่มีใครว่าอยู่ดี แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเป็นทางการและความดูดีเป็นสิ่งสำคัญ เช่น เวลาเสนอ(present)งาน ชุดนักศึกษา(และนิสิต)มักเป็นทางเลือกต้นๆเสมอ สมมติว่าคุณต้องการความดูดีและน่าเชื่อถือ เราก็มีกฎง่ายๆเล็กๆน้อยๆในการเลือกรองเท้ามานำเสนอ

1. จงเดินทางสายกลาง อย่าเลือกใช้รองเท้าหัวแหลม(สามเหลี่ยม) หรือหัวตัด(สี่เหลี่ยม) แล้วก็ระวังอย่าให้หัวเชิดจนเหมือน'อลาดิน'หล่ะ




2. รองเท้าผูกเชือกมี 2 แบบหลักๆ คือ Cap-Toe Oxford และ Wingtip  Oxford เป็นทางการกว่า แต่ว่ากันว่า Wingtip จะใส่ได้หลากหลายกว่า โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า Oxford สีน้ำตาลก็ใส่กับทั้งชุดนักศึกษา,ชุดทำงานและชุดไปรเวทได้เหมือนกัน

Oxford หนังลูกวัวจาก Church's และ Wingtip หนังกลับจาก Herring Shoes

3. ถ้าร้อนนักก็ใส่ Loafer ซะ loafer เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ชนชาติอเมริกันได้มอบให้กับผู้ชายมีสไตล์ (ไม่นับฮิบฮอป และการใส่ชุดนอนไปเรียน)  loafer อาจจะไม่เป็นทางการเท่ารองเท้าผูกเชือก แต่ก็ถือเป็นที่ยอมรับแม้ในวงการธุรกิจพันล้าน (โดยเฉพาะในอเมริกา)  ถ้าอยากได้แบบวัยรุ่นหน่อยก็มี loafer จากอิตาลี เช่น Gucci หรือ Ferragamo ส่วน Penny Loafer ของอเมริกันชนเป็นเครื่องแต่งกายคลาสสิกสำหรับนักเรียน Ivy League

Loafer อิตาเลียนจาก Zegna/ Penny Loafer จาก Allen Edmonds/ Loafer ทรงร่วมสมัยจาก John Lobb


4. อยากแตกต่างต้องใส่ Monk strap ใส่ได้ทั้งทำงานและเล่น แต่ระวังแบบหัวสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยมที่มีมากในไทยหล่ะ


5. หนังธรรมดาหรือหนังกลับก็ได้ หนังกลับเป็นทางการน้อยกว่าแต่ก็ดูดีเท่ากัน ระวังหนังคุณภาพต่ำ และหนังแก้วหล่ะ

6. ทุกอย่างเริ่มมาจากรากฐานที่ดี; การมีจุดยืนที่มั่นคงจะทำให้ก้าวไกลในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว ลงทุนกับรองเท้าดีๆซักคู่ และออกไปแสดงความสามารถของคุณด้วยความมั่นใจ!

ภาพ: The Sartorialist

ปล.1 อย่าลืมว่ากฎมีไว้แหก รู้ไว้ แล้วปรับตามความเหมาะสม
ปล.2 แต่ก็อย่าให้รองเท้าเป็นหัวสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมหล่ะ

เนื้อหาสาระดีๆจาก The Preppist ย้ายไปอยู่ที่ www.thepreppist.com แล้วครับ 

Tuesday, August 24, 2010

Real Preppists

ใครว่าผู้ชายไทยแต่งตัวดีๆนั้นหายากกว่าสัตว์ป่าสงวน  เราขอคัดค้าน  เมื่อครั้งอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด กรุงเทพฯก็ยังไม่สิ้นผู้ชายมีสไตล์ฉันนั้น  จะจริงหรือไม่จริง 'สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น!'





Thursday, August 19, 2010

The Inception Best-Dressed Man!

เอาหล่ะ หลังจากที่พวกคุณได้ร่วมโหวตให้ Inception Best-Dressed Man ในอาทิตย์ที่แล้วก็ถึงเวลาที่จะประกาศผลกันซักที เราขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมโหวตและแสดงความคิดเห็น ตัวละครที่ได้รับผลโหวตมากที่สุดก็คือ.........

Arthur!

Arthur : Your Inception Best Dressed Man

Arthur นั้นรับบทโดย Joseph Gordon-Levitt นักแสดงที่มีสไตล์ทั้งในและนอกจอ ได้ลงทั้งนิตยสาร GQ และ Esquire มาแล้ว จะว่าไปแล้ว Gordon-Levitt นั้นก็ไม่ได้มีหน้าตาที่หล่อเหลา หรือหุ่นที่เป็นที่อิจฉาของทุกคน อย่าง Brad Pitt หรือ George Clooney ทว่าสาวๆก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Joseph Gordon-Levitt เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากๆ ทำไมหล่ะ? นอกจากบุคลิคแล้ว ก็คงเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เหมือนที่ Mark Twain กล่าวไว้ว่า 'Clothes make the man. Naked people have little or no influence...'  แปลเป็นไทยง่ายๆ (แต่อาจจะไม่เท่เท่า) ก็คือ 'ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง' นั่นเอง

Gordon Levitt ในสูทย้อนยุคสไตล์อเมริกัน
ภาพ : Esquire

ยีนส์สวยๆไม่จำเป็นต้องแพง (ยีนส์จาก Levi's ราคา 1500 บาท)
ภาพ : Esquire

ขอลากันด้วย MV จากภาพยนต์เรื่อง 500 Days of Summer (Gordon-Levitt เล่นกับ Zooey) แต่ดูแล้วก็อย่าลอกเลียนแบบสไตล์ของเค้าไปแบบหัวจรดเท้าหล่ะ เลือกไปเฉพาะสิ่งที่คุณชอบและเป็นตัวคุณ สไตล์ของคุณเนี่ยเเหละที่เหมาะกับคุณมากที่สุด!

Monday, August 16, 2010

ซื้อยีนส์อย่างคุ้มค่าเงิน: part 1

เมื่อเปิดดูตู้เสื้อผ้า ไม่ว่าจะของใคร โดยเฉพาะผู้ชาย สิ่งหนึ่งที่จะต้องมีไว้คงหนีไม่พ้นกางเกงยีนส์ เก่า ใหม่ ขาดเองตามกาลเวลา ขาดโดยเจตนา ไม่ขาด สีเข้ม สีจาง ตัวโปรด ตัวไม่โปรด ล้วนแต่มาจากการคัดเลือกของคุณตอนตัดสินใจซื้อยีนส์เหล่านี้ นี่ยังไม่นับเรื่องทรงที่มีอีกมากมายนับไม่ถ้วนนะครับ ถึงกระนั้น วันใดก็ตามที่คุณมองเข้าไปในตู้แล้วพบว่ามียีนส์เรียงเป็นตั้ง! แต่ไม่เห็นมีตัวไหนใส่แล้วดูดี มั่นใจ เมื่อนั้นก็คือฤกษ์ดีแห่งการซื้อยีนส์ใหม่สักตัว


จากตู้เสื้อผ้าให้เดินไปหากระเป๋าตังค์ เช็คดูว่าต้องการใช้เงินเท่าไหร่ในการซื้อครั้งนี้ เพื่อจะได้ยีนส์ที่ใส่อย่างคุ้มค่าและไม่มาลงเอยในสุสานยีนส์ที่คุณเพิ่งเห็นเมื่อย่อหน้าที่แล้ว โดยมีหลักคร่าวๆดังนี้
1. อย่าอดข้าวเพื่อมาซื้อยีนส์ ยีนส์ดีไม่จำเป็นต้องแพง และแน่นอนว่ายีนส์แพงก็ไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป
2. เลือกตัวที่ใส่พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป จำไว้ว่า fitting เป็นสิ่งสำคัญเสมอ
3. ควรเลือกทรงที่ทำให้คุณดู Slim มากที่สุดแต่ไม่ใช่รัด เอวไม่สูงหรือต่ำ และไม่ว่าคุณอ้วนหรือผอม ให้หาทรงที่ดู Slim บนตัวคุณไม่มีใครอยากเห็นน่องผู้ชายถูกรัดด้วยยีนส์ ความ Slim จะช่วยรับกับรูปร่างทำให้ดูสมส่วน ไม่เทอะทะ ลุ่มล่าม หรือ เล็กและรัดแน่นจนเกินไป


4. ถ้านี่เป็นการซื้อยีนส์ครั้งแรกในรอบปีของคุณ เลือกสีเข้ม แต่ไม่ใช่ดำ และเรียบง่ายไม่มีการตกแต่ง นั่นคือเสน่ห์ของกางเกงยีนส์ ยีนส์สีน้ำเงินเข้มจะใส่ได้กับหลายชุด จะ dress up หรือ dress down ก็ได้ตามอัธยาศัย

5. ที่เดียวที่คุณควรจะเห็นกระดุมหรือซิปของยีนส์ คือตรงเป้า มิฉะนั้นสุดท้ายยีนส์ตัวนั้นคงจบที่สุสานแห่งเดียวกัน

กรณีหนักใจครับ

6. ไม่ต้องซื้อเผื่อโตเหมือนตอนเป็นเด็ก ถ้ายาวไป ยอมเสียค่าตัดขาสักนิดหน่อย บางร้านก็ตัดให้ฟรี ถ้าคิดจะพับหรือโรลขากางเกงก็เผื่อสัก 2-2.5 นิ้วเป็นพอ แต่หากวางแผนจะใส่พอดีไม่พับ แนะนำว่าตัดให้ปลายอยู่ประมาณตาตุ่มจะเข้าได้กับรองเท้ามากแบบที่สุด





7. ตัวไหนไม่ชอบ อย่าทิ้ง บริจาคซะ มีคนอีกมากมายบนโลกนี้อาจใช้ประโยชน์จากยีนส์เก่าของคุณได้

หวังว่าหลักการ 7 ข้อนี้จะไม่มากไปนะครับ
เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องราคาและงบประมาณการซื้อยีนส์ด้วยซ้ำ!

Saturday, August 14, 2010

Preppist Wisdom #2

ภาพ : thesartorialist.blogspot.com

"It's all about self-expression.  I rarely shoot a look where I love all the elements.  I don't need to love the whole look: I just need to identify the one or two elements that mean something to me, and then capture it in the romantic way I see it... They can hone in on the trim detail of a vintage dress and simply disregard the rest.  Let's just say it's a positive and less judgmental way to look at the world... (I hope that) rather than giving a look a 'thumbs up' or a 'thumbs down', you will focus on the elements that could inspire you."

- Scott Schuman, The Sartorialist

Monday, August 9, 2010

Preppists on the Screen : Inception

อินเซปชั่นเป็นภาพยนตร์ที่หลายๆคนไปดูแล้วติดใจ มีการวิจารณ์ วิเคราะห์กันมากมายในอินเตอร์เน็ต คงปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากวิธีดำเนินเรื่อง เทคนิคการถ่ายทำ การจัดแสง และเสียงประกอบนั้น ชุดของนักแสดงก็มีส่วนสำคัญที่จะดึงบุคลิคของตัวละครออกมาให้ผู้ชมได้รับรู้ และทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นมากขึ้น ชุดในฉากต่างๆแสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศ ความเป็นทางการ และอารมณ์ ความเข้มข้น ของฉากนั้นๆ  เรามาดูกันดีกว่าว่าการแต่งตัวของตัวละครต่างๆในเรื่องอินเซปชั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง

Cobb (Leonardo DiCaprio) เริ่มจากพระเอกคอปป์ที่มาในชุดสูทสีเข้ม(ดำและเทา) เนคไทสีเดียวกัน และเสื้อเชิ้ตสีขาวเวลาที่เขาออกปฏิบัติภารกิจ  ชุดนี้เป็นชุดที่ดาราและนักแสดงชอบใส่กันเวลาออกงาน โดยเฉพาะสูทสีดำ ชุดสูทสีดำนั้นเป็นชุดที่ดูดีแต่ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไหร่เพราะใครๆก็ใส่กัน ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองหรือความคิดสร้างสรรค์ ทว่าถ้าดูจากบทของคอปป์ที่เป็นนักจารกรรมข้อมูล และต้องเข้าฉากถือปืนต่อสู้บ่อยครั้ง ชุดนี้ถือว่าเหมาะ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนสายลับอย่าง James Bond ที่ยังคงความเนี้ยบเเละเท่ไว้ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่ต้องกระโดดหลบกระสุน

ข้อสังเกตอย่างนึงคือ เสื้อเชิ้ตของคอปป์ทุกตัวเป็นปกแบบ Point Collar (ปกยาวและแหลม) รับกับโครงหน้าที่กลมของเขาเป็นอย่างดี ทว่าคอปป์ไม่ชอบใส่ pocket square (ผ้าเช็ดหน้าสำหรับใส่ที่กระเป๋าเสื้อสูท)  ทำให้ความเนี้ยบ คมของสูทสีดำที่เขาใส่ดูลดลงไปเยอะทีเดียว

คอปป์ไม่ใส่ Pocket Square

สูทสีโมโนโทนของคอปป์ และสูท Double Breast ของฟิชเชอร์ (มี pocket square)


Robert Fischer (Cillian Murphy)  ดูจากการแต่งตัวก็รู้ว่าฟิชเชอร์เป็นผู้บริหารของธุรกิจยักษ์ใหญ่ ด้วยเสื้อสูท Double-Breast และเนคไทสีม่วง หรือสีเลือดหมูสไตล์อิตาเลียน หรือ Suspension ที่ทำให้นึกถึงวาณิชธนากร (Investment Banker) อย่าง Gordon Gekko สูทและเนคไทของฟิชเชอนั้นจะไม่เป็นสีดำซึ่งเป็นสีที่ไม่เหมาะกับการใส่ทำงานเวลากลางวัน แต่จะเป็นสีเทาหรือสีน้ำเงินเข้มแทน ถ้าสังเกตุดูจะเห็นได้ว่าเสื้อเชิ้ตทุกตัวของฟิชเชอร์จะเป็นแบบ Cut-Away Collar ที่ปกจะแผ่กว้างกว่าเสื้อเชิ้ต Point Collar ของคอปป์ รับกับโครงหน้าที่เรียวของเขาได้อย่างดี

เสื้อเชิ้ต Cut-Away Collar ของฟิชเชอร์ และ Point Collar ของคอปป์


Arthur (Joseph Gordon-Levitt) อาเธอร์เป็นคนที่แต่งตัวดีทั้งในฉาก formal และ casual  มักจะมาใส่ชุดสูท 3 ชิ้น (เสื้อนอก+กางเกง+Vest)  มีการเล่นสีและ pattern ระหว่างเสื้อผ้าแต่ละชิ้น ในฉากสุดท้ายอาเธอร์ใส่ cuff link สีทอง ดูเเปลกตาไปจากนักแสดงคนอื่นๆที่ใส่สีเงิน

สูท 3 ชิ้นของอาเธอร์

Eames (Tom Hardy)  แม้จะไม่ค่อยมีฉากที่ใส่ชุดสูทเหมือนคนอื่น แต่อีมส์ก็มีสไตล์การแต่งตัวเป็นของตัวเองแบบสบายๆ เหมือนไปตากอากาศที่ปานามา เช่น เสื้อ Sport Shirt สีซีด หรือเสื้อนอกผ้าลินิน



Saito (Ken Watanabe) ไซโตะชอบใส่ชุดสูท 3 ชิ้นสีเทาอ่อน แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น ส่วนลายเนคไทของเขานั้นบอกเราว่า ไซโตะเป็นมาเฟียแน่อน!


ให้คะแนนตัวละครโปรดของคุณโดยการกดปุ่ม Like ที่รูปใน Page ของเราบน Facebook วิจารณ์ให้เต็มที่ ความคิดเห็นของทุกคนมีผลกับการตัดสินใจของเรา Click Here

Sunday, August 8, 2010

วิธีพับและโรลแขนเสื้อ


ก่อนอื่นขอรับประกันว่านี่จะช่วยแก้ปัญหาที่ใครหลายคนประเชิญอยู่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใส่เสื้อเชิ้ตเป็นประจำจะพบว่าชีวิตง่ายขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

หนึ่งในวิธีการบอกตัวเองและคนอื่นว่าคุณไม่ได้เรียน ร.ด. อยู่ในขณะนั้นคือวิธีการพับแขนเสื้อของคุณ ในวันหนึ่งๆวัน ต้องมีจังหวะที่คุณพบว่าแขนเสื้อของคุณนั้นกำลังทำให้ทำอะไรไม่สะดวก อาจเป็นเวลาที่ต้องทานข้าว หรือ ต้องรีบเขียน lecture อะไรบางอย่างอยู่ก็ตาม โชคดีจริงๆที่ในชีวิตประจำวันไม่มีความจำเป็นต้องเอาสามสี่นิ้วมือทาบเพื่อวัดขนาดรอยพับของแขนเสื้อคุณ

แน่นอนว่าการจะพับแขนเสื้ออย่างไรนั้นเป็นเรื่องของความชอบโดยส่วนตัว และถึงแม้วิธีการจัดการกับแขนเสื้อจะไม่มีกฎตายตัวที่กำหนดไว้ ผมก็มีคำแนะนำที่คิดว่านอกจากจะช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังทำให้เสื้อของคุณดูมีสไตล์แม้แขนเสื้อจะถูกพับและโรลอยู่ หลักการที่ต้องท่องไว้ในใจคือความเป็นธรรมชาติของการพับที่ดูไม่ได้ตั้งใจจนเกินไป

1. ก่อนอื่นปลดกระดุมที่ปลายแขนเสื้อ (cuff) ออกก่อน แล้วพับปลายขึ้นมาเป็นความกว้างอย่างน้อยให้เท่ากับ ความกว้างของ cuff เสื้อ
2. พับหรือม้วนรอยพับเดิมในข้อ 1. ขึ้นมาสัก 2-3 ทบอย่างไม่ต้องเป็นระเบียบ โดยความกว้างแต่ละทบสัก 1 นิ้ว ตอนนี้คุณจะเห็นปลายแขนเสื้อเดิมถูกทับด้วยรอยพับใหม่ที่ดูไม่จงใจเกินไป
3. เมื่อพับไปจนเริ่มรู้สึกว่าเกือบๆแน่นแขนแล้ว ใช้มือดันทั้งกองขึ้นไปประมาณข้อศอก จะดันขึ้นไปสูงแค่ไหน อันนี้ขึ้นกับความชอบของคุณ ปล่อยไว้แบบนั้นไม่ดันเลยก็ได้ โดยส่วนตัวผมจะดันขึ้นไปเท่าข้อศอกเพราะ จะขยับแขนสะดวก

สรุป: ปลด - พับ - ม้วน - ย่น

จำไว้ว่าความพอดีของรอยพับไม่ใช่สิ่งสำคัญในประเด็นนี้ คุณต้องการรอยย่นและการโรลที่เป็นธรรมชาติ เนื้อผ้าจะทำหน้าที่ที่เหลือในการปรับเข้ากับลักษณะแขนของคุณเอง คุณอาจรู้สึกไม่ชินตอนแรกๆ แต่สัก 3-4 ขยับก็จะเข้าที่ เทคนิคนี้ใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าแขนของคุณจะมีขนาดเท่าใดก็ตาม


และยิ่งทำเป็นประจำก็จะคล่องขึ้นและใช้เวลาน้อยลง
ลืมบอกไปว่า ที่แนะนำมาทั้งหมดนี้ อย่าเอาไปใช้กับเสื้อแขนสั้นเลย ไม่ว่าชนิดใดก็ตาม

เค้าทำเสื้อมาแขนสั้นอยู่แล้ว อย่าเข้าใจผิดไปพยายามทำให้มันสั้นกว่าเดิมด้วยการพับมันเลยครับ


เนื้อหาสาระดีๆจาก The Preppist ย้ายไปอยู่ที่ www.thepreppist.com แล้วครับ 

Friday, August 6, 2010

Preppy wisdom#1




"Clothes make the man. Naked people have little or no influence on society."
- Mark Twain

Thursday, August 5, 2010

รองเท้าสำหรับอากาศร้อน Part 1

Boat Shoes แบบต่างๆ
ภาพ : GQ

Boat Shoes เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาสำหรับเล่นเรือ จะถูกนำมาใส่เฉพาะในช่วงฤดูร้อน มีคุณสมบัติพิเศษคือกันน้ำได้ดี ราคาไม่เเพง ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเย็บในการประกอบส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน (รองเท้าราคาถูกจะใช้ติดกาว ซึ่งไม่ทนเท่าการเย็บ) นอกจากนั้นยังทำจากวัสดุที่หลากหลายและมีหลายสีให้เลือก แบรนด์ที่ผลิต Boat Shoes เช่น Sebago, Sperry, Timberland 

Boat Shoes จาก Sebago

---------------------------------------------------------------------------

The Original Car Shoes
ภาพ : www.thestyleblogger.com

Driving Shoes/ Driving Loafers ที่เห็นกันมากในไทยก็คือแบรนด์ Tod's  วัสดุที่ใช้คือหนังกลับ แล้วใช้วิธีเย็บเข้าด้วยกันแบบ Moccasin Construction  ข้อดีคือใส่สบาย และมีให้เลือกหลากสี แต่ส่วนใหญ่มักจะมีราคาแพงและหาซื้อได้ยาก

ภาพ : www.thestyleblogger.com



The Tropical Preppist





คำว่า Preppist นั้นมาจากรากศัพท์ว่า Preppy + ist  พจนานุกรม Oxford American Dictionary ให้คำจำกัดความคำว่า Preppy ว่า "A student or graduate of an expensive preparatory school or a person resembling such a student in dress or appearance."  Preppy มักจะถูกโยงเข้ากับ Ivy League หรือกลุ่มของมหาวิทยาลัยในอเมริกาฝั่งตะวันออก 8 แห่ง เช่น Harvard, Yale, Princeton, Yale  Ivy League เป็นคำจำกัดความของการศึกษาที่ดีเลิศ เเละสังคมของคนชั้นสูง การสมัครเข้าศึกษาในสถาบันเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก

สไตล์การแต่งตัวแบบ Preppy นั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950s  อาทิเช่น การใส่เสื้อเชิ้ต Oxford แบบ button down, กางเกงผ้า Chino หลากสี, ผ้า Madras, สี Nantucket Red, Penny Loafer หรือ Boat Shoes 

Polo Ralph Lauren, Rugby หรือ J.Crew เป็นตัวอย่างของสินค้าที่ได้เเรงบัลดาลใจมากจากวัฒนธรรม Preppy


ทำไมต้องเป็น Tropical Preppist?

ประเทศส่วนใหญ่ในโลกนั้นจะมี 4 ฤดู เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็จะถูกออกมาสำหรับสภาพอากาศตามฤดูต่างๆ แต่ประเทศไทยนั้นมีสภาพอากาศแบบ tropical เพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีเพียง 3 ฤดู และมีอุณหภูมิสูงตลอดทั้งปี

การแต่งตัวที่ดีนั้นต้องแต่งให้ถูกสภาพอากาศ เสื้อสูทผ้า wool สำหรับฤดูหนาวนั้น ถือเป็นเครื่องแต่งกายคลาสสิก แต่คงไม่เหมาะนักหากจะนำเสื้อสูทสำหรับฤดูหนาวมาใส่ในบ้านเราที่เเค่ออกมาจากห้องปรับอากาศเพียง 10-15 นาทีก็เหงื่อแตกกันแล้ว

ผมอยากให้ The Preppist เป็นแหล่งข้อมูลของสไตล์ preppy ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเราครับ 

เกริ่น

ความคิดเริ่มสร้าง blog นี้เกิดจากการที่ผมอยากจะเขียนเกี่ยวกับสไตล์ของเสื้อผ้าผู้ชาย -- สไตล์ ไม่ใช่แฟชั่น ผมไม่รู้เรื่องแฟชั่นมากขนาดนั้น จึงคิดว่าเขียนอะไรที่ตัวเองมีความสนใจดีกว่า โดยมีความหวังว่านอกจากจะได้นำเรื่องที่น่าสนใจมาเผยแพร่ ยังจะได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆกันในหมู่ผู้ที่มีความสนใจคล้ายๆผมบน blog นี้อีกด้วย

แน่นอนว่าสไตล์ของเสื้อผ้าผู้ชายมีมากมายหลายประเภท แต่สำหรับการพูดคุยกันใน blog นี้นั้นจะเน้นไปทางสไตล์ที่คลาสสิกแต่มีการผสมกลิ่นของความร่วมสมัยเข้าไปด้วย เพื่อให้ไม่น่าเบื่อ โดยผมได้ดึงคำว่า prep มาใช้ในการจำกัดความสไตล์ของ blog นี้

ว่าแต่ prep นี่มันหน้าตาเป็นอย่างไร?