Sunday, January 30, 2011

วิธีผูกเนคไทแบบหลักๆพร้อมวิดีโอสาธิต

หลักๆแล้วการผูกเนคไทก็มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ four-in-hand, half windsor และ full windsor เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละแบบผูกยังไงและมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร

1. The Four-in-hand



เป็นวิธีที่ผูกง่ายที่สุด เงื่อนที่ออกมามีขนาดเล็กที่สุดใน 3 แบบ ทำให้เหมาะกับเสื้อเชิ้ตแบบ modern ที่มักจะปกเล็กกว่าปกติ หรือเสื้อเชิ้ตแบบ point-collar  ความไม่สมมาตรของ four-in-hand ทำให้ภาพที่ออกมาดู formal น้อยกว่าการผูกแบบอื่นๆเล็กน้อย



2. The Full Windsor 

Full windsor เหมาะกับเสื้อ cut-away collar

คาดว่าตั้งชื่อตาม Duke of Windsor ที่ชื่นชอบเนคไทเงื่อนใหญ่ๆ  เงื่อนแบบ full windsor มีขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 แบบ เป็นรูปสามเหลี่ยมสมมาตร  มักใช้กับเสื้อเชิ้ตแบบ cut-away collar  ข้อเสียคือ ผู้ที่ผูกเนคไทแบบ windsor มักจะเป็นผู้สูงอายุหรือนักการเมืองที่ไม่สนใจสไตล์การแต่งตัว กลายเป็นภาพติดตาว่าเงื่อนแบบ windsor ดูแก่



3. The Half Windsor

Half windsor คงความสมมาตรไว้ แต่ขนาดเล็กลง

วิธีผูกที่ดัดแปลงมาจาก full windsor  โดยเงื่อนจะสมมาตรแต่มีขนาดเล็กกว่าจึงทำให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น


เคล็ดลับการผูกเนคไททุกแบบคือต้องผูกให้แน่น  ไม่ควรให้มีช่องว่างระหว่างเงื่อนกับปกเสื้อด้านบน  และควรมีรอยบุ๋มตรงกลาง (dimple)  และจำไว้ว่า 'Real man ties his own tie!'

Saturday, January 29, 2011

thePreppist Wardrobe Staple: Khaki Chinos

Chino (ชิโน่) เป็นภาษาสเปน แปลว่า Chinese เพราะจีนเป็นแหล่งกำเนิดของผ้าชนิดนี้ ความจริงแล้วสมัยก่อนใช้ทำเครื่องแบบทหารเนื่องจากมีคุณสมบัติความทนทานที่เป็นเลิศ ต่อมาความนิยมของ Chino จึงแพร่หลายมาเป็นเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันเมื่อทหารเหล่านั้นกลับมาจากสงคราม

หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการใส่กางเกง Chino ให้เริ่มด้วยสีกากีก่อนเพราะเป็นสีที่ใส่ง่ายและไม่น่าเบื่อ โดยส่วนตัวผมคิดว่าเป็นกึ่งกลางระหว่างกางเกงยีนส์และกางเกง Dress พอดีๆ โดยปกติแล้วกางเกง Chino จะมีสี่กระเป๋า ซึ่งด้านหลังจะเหมือนกางเกง Dress คือมีกระดุมใช้ปิดกระเป๋าหลัง พยายามเลี่ยงแบบอื่นนอกเหนือจากนี้

เรื่องของ Fitting ก็มีสองแบบที่แนะนำขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณ

1. Slim Fit

2. Classic Fit

Tip: ลองโรลขากางเกงขึ้นมาก็เป็นอะไรที่ดูดีและน่าสนใจ

สำหรับในไทยตอนนี้ก็หาซื้อได้อยู่บ้าง เช่นที่ Gap, Dockers, Massimo Dutti, Zara, และตามร้าน Vintage ทั่วไปทั้งสยามและจตุจักร โดยราคาก็แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพและแบรนด์


ทิ้งท้าย: หากวันใดเบื่อ Chino แล้ว แทนที่จะทิ้ง ให้ทางเลือกตัวเอง 2 ทาง
1. นำไปตัดเป็นขาสั้นรอรับหน้าร้อนนี้ได้เลย
2. Chino เป็นกางเกงที่ใส่นอนได้สบายจริงๆ

Saturday, January 22, 2011

หลากหลายสไตล์กับชุดนักศึกษา Part 3: The Big Day at School

คุณใช้เวลาไปกับเทอมโปรเจค กับงานวิจัยกี่เดือนกี่วันให้มันออกมาเพอร์เฟคกัน?  ขอเวลาอีก 10 นาทีมาแต่งตัวให้ดูเป็นมืออาชีพ Top off ผลงานที่คุณทุ่มเททำมาเป็นเดือนๆ เพียงแค่นี้พรีเซนเทชั่นของคุณก็จะดูโปรขึ้นมาอีกระดับ


Dress code สำหรับวันที่ต้องดูดีเพื่อเสนอผลงานคือแบบ Formal/ Business Attire  ถึงแม้จะไม่ใส่แจ๊คเก็ตหรือสูท ชุดแบบนี้ก็ยังอาจถูกมองว่า 'เว่อร์' ในมหาวิทยาลัยได้ อย่างไรก็ดีผมคิดว่ามันเหมาะสมหากผลงานส่วนอื่นๆของคุณออกมาเป็นมืออาชีพหรือคุณอยู่ในปีท้ายๆของการเรียนแล้ว ความสามารถในการแต่งตัวให้ดูเป็นมืออาชีพไม่ได้ฝึกกันได้ง่ายๆ เสื้อผ้าดีๆที่ทนทานมีราคาแพง คงจะดีกว่าถ้าไม่ต้องกระวนกระวายรีบหามาใส่โดยการซื้อยกโหล ผมคิดว่าการแต่งตัวแบบกึ่งมืออาชีพแบบนี้จะช่วยเชื่อมช่องว่างและเตรียมตัวคุณให้พร้อมสำหรับชีวิตการทำงานครับ


เสื้อ Dress Shirt เหมาะกับการใส่กับเนคไทมากกว่า sport shirt เพราะปกของเสื้อ dress shirt จะแข็ง และรับกับเนคไทมากกว่า cuff link ก็เป็นหนึ่งในเครื่องประดับไม่กี่อย่างที่ผู้ชายใส่ได้ แน่นอนว่าเนคไทต้องผูกเอง การผูกแบบ four-in-hand ก็ทำให้อะไรดูไม่เว่อจนเกินไปเหมือนการผูกแบบ windsor กางเกงเป็นกางเกงผ้าวูลแบบสลิม แล้วปิดท้ายด้วยรองเท้า lace-up กับเข็มขัดหนังสีเดียวกัน!


Friday, January 21, 2011

หลากหลายสไตล์กับชุดนักศึกษา Part 2: The Business as Usual


สำหรับวันทั่วๆไปเสื้อนักศึกษานั้นก็ควรจะเป็นสีขาว นอกจาก button-down แล้วก็อาจจะใส่เป็นเสื้อเชิ้ต soft collar ก็ได้เหมือนกัน แน่นอนว่าถ้าจะมีลาย อย่างมากที่สุดก็คงเป็นโลโก้เล็กๆ กางเกงยีนส์นั้นถ้าเป็นแบบผ้าดิบ สีเข้ม ไม่เฟด ก็จะดูเป็นทางการมากกว่า เข็มขัดนั้นเลือกได้หลายแบบ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นเข็มขัดหนังแบบ formal ก็ได้ รองเท้า oxford หรือ wingtip เป็นตัวเลือกที่ใส่ยังไงก็ไม่พลาด (อ่านเพิ่มได้ที่ 'รองเท้ากับชุดนักศึกษา')  การเล่นสีที่ถุงเท้าทำให้ชุดมีชีวิตชีวาไม่น่าเบื่อ แต่ยังคงซึ่งความเป็นมืออาชีพไว้ได้

Tuesday, January 18, 2011

หลากหลายสไตล์กับชุดนักศึกษา Part 1: The Lazy Monday

The Lazy Monday; ในวันที่เวลาการนอนต่ออีก 10 นาทีมีค่ามากกว่าอาหารเช้า เมื่อคุณกดปุ่ม 'Snooze' หนึ่งครั้งเพื่อแลกเวลาทำกิจกรรมอื่นๆกับการนอน คงจะไม่ใช่เรื่องถ้ามาเสียเวลาแต่งตัวนานๆแล้วไปโรงเรียนสาย แต่แน่นอน การแต่งตัวโทรมๆไปเรียนก็ไม่ใช่ทางเลือกเช่นกัน


ในวันสบายๆอย่างนี้ ถ้าจะมีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่มีทางพลาด ไม่ต้องเสียเวลาคิด ก็คงจะเป็นเสื้อเชิ้ตผ้า oxford แบบ button down กับกางเกงยีนส์ ในเมื่อไม่มีเวลามากก็ไม่ต้องสนใจหรอกว่าเสื้อเชิ้ตจะเป็นสีขาวหรือเปล่า เอาแค่ให้ดูคล้ายๆขาวก็พอ จะแหกกฎบ้างเล็กๆน้อยๆก็คงจะไม่มีใครว่าอะไร หากแต่งตัวดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย เอาเสื้อใส่เข้าในกางเกง (แล้วแต่มหาลัยนะครับ)  ส่วนกางเกงยีนส์ที่ให้ลุคสบายๆก็คงจะเป็นกางเกงยีนส์เก่าๆสีตกนิดหน่อย ที่ใส่จนนิ่มสบายกว่ากางเกงยีนส์ผ้าดิบตัวใหม่ ถุงเท้าหรอ ไม่มีเวลาหรอก มาใส่รองเท้า boat shoes หรือ loafers ที่ใส่แบบเท้าเปล่าดีกว่า!

Part 2: The Business as Usual
Part 3: The Big Day at School

Tuesday, January 11, 2011

Day 5: The Turtleneck Sweater

เสื้อ sweater คอเต่าถึงแม้โอกาศใส่จะน้อย แต่ก็เป็นเสื้อผ้าที่คุ้มมากชิ้นนึง นอกจากนั้นยังเป็นของที่น่าซื้อในประเทศไทยอีกด้วย เหตุผลก็ด้วยโอกาสใส่ที่น้อยเนี่ยแหละครับทำให้เวลาลดราคาก็จะลดมากกว่าสิ้นค้าชิ้นอื่นๆเยอะ เสื้อคอเต่าก็เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ง่ายและดูดีมากชิ้นนึงที่คนไทยอาจมองข้ามไปหรือไม่ค่อยรู้จัก thePreppist เลยถือโอกาศที่เราไปทริปในต่างจังหวัดนี้มาแนะนำเสื้อคอเต่ากันนะครับ

จับคู่กับกางเกง chino และรองเท้าผ้าใบสำหรับลุคแบบง่ายๆ

เสื้อคอเต่าเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ง่ายเพราะจะช่วย balance ช่วงคอให้ดูสมส่วนมากขึ้น คือทำให้ผู้ที่คอยาวดูคอสั้นลด และในทางกลับกันก็ทำให้ผู้ที่คอสั้นดูคอยาวขึ้น เสื้อ sweater คอเต่านั้นก็ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิดหากเลือกเนื้อผ้าให้เหมาะสม เสื้อคอเต่าอาจทำมาจาก cashmere, wool, cotton หรือ silk เช่นเดียวกับ sweater แบบอื่นๆ โดยที่ cashmere กับ wool จะอุ่นที่สุด แนะนำให้เลือกเป็นที่เนื้อผ้าบางจะใส่ง่ายที่สุด เสื้อคอเต่าสามารถใส่ให้ฟิตช่วงตัวมากกว่าเสื้อชิ้นอื่นๆได้ ส่วนเรื่องของลายนั้นแนะนำว่าให้ใส่แบบไม่มีลายหรือมีลายเพียงเล็กน้อยดีกว่า เพราะความสวยงามของเสื้อคอเต่าคือความเรียบง่ายแต่ดูหรูหราของมันนั่นเอง

Dress up ในวันหยุดด้วยเสื้อคอเต่ากับ Sport Jacket

ส่วนการใช้งานในต่างประเทศที่อากาศหนาวนั้นถือว่าเหมาะมาก เพราะอุณภูมิในร่างกาย 95% จะสูญเสียออกไปจากส่วนศีรษะและคอ เสื้อคอเต่าจะช่วยรักษาอุณภูมิและทำให้ไม่รุ้สึกหนาวมากคล้ายกับการใส่ผ้าพันคอแต่เทอะทะน้อยกว่า

thePreppist's Choice : เสื้อคอเต่าสีเข้มแบบ Steve McQueen's
Steve Jobs ก็ชอบใส่คอเต่าเหมือนกัน

ก็จบลงไปแล้วสำหรับซีรี่ 5-Day with thePreppist กับเสื้อผ้าฤดูหนาว หวังว่าข้อมูลจะมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกคนนะครับ โปรดติดตาม post ใหม่ของเราภายในเร็ววันนี้ครับ

Monday, January 10, 2011

Day 4: The Denim Shirt

มาถึงวันที่ 4 ของซีรีส์นี้กันแล้ว หวังว่าที่ผ่านมาจะถูกใจใครหลายๆคนนะครับ
หากคุณพบว่าสามวันที่ผ่านมานั้น thePreppist ได้นำเสนอเสื้อผ้าที่อาจดูใส่ได้ยากสำหรับเมืองร้อน วันนี้ผมจึงอยากแนะนำเสื้อผ้าอีกชิ้นที่สารพัดประโยชน์ทั้งอากาศร้อนและเย็นซึ่งก็คือ เสื้อ Denim

ขี่จักรยานเล่นที่ปาย, แม่ฮ่องสอน

เหตุที่ไม่ใช้คำว่าเสื้อยีนส์ก็เพราะจริงๆแล้วคำว่า Jeans หมายถึงกางเกงขายาวที่ทำจากผ้าชนิด Denim ซึ่งอาจทำให้คุณนึกถึงภาพคาวบอยเมื่อนึงถึงเวลาที่ต้องใส่ "เสื้อยีนส์"

ความจริงก็คือเสื้อ Denim ไม่ได้ทำให้คุณดูเป็นคาวบอยหากเลือกใส่อย่างถูกต้อง แถมยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากและยังมีความทนทานอีกด้วย ควรมีไว้อย่างน้อย 1 ตัว เพราะใช้ในการจับคู่หรือสร้าง Layer ให้กับชุดได้หลายชุด วิธีการเลือกมาใส่ก็มีอยู่มากมาย
1. Denim-Chinos อย่างที่เห็นภาพด้านบน สีของกางเกงก็อาจเป็นกากี ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
2. Denim-Denim เป็นอะไรที่อาจซับซ้อนเล็กน้อย แต่เคล็ดลับคือ สีเสื้อ Denim กับกางเกงยีนส์ต้องตัดกันพอสมควร อย่างน้อยควรเป็นโทนแบบรูปด้านล่างนี้

ภาพจาก GQ

3. Denim-White tee-Chinos สำหรับวันที่คุณต้องการ Layer เล็กน้อย ความอ่อนของสีขาวจะช่วยทำให้คุณได้นำกางเกงสีเข้มมาใส่คู่กับเสื้อยีนส์ที่ใส่แบบไม่ต้องติดกระดุม แนะนำว่าแขนเสื้อนั้นให้พับขึ้นไปเพื่อความสะดวกกว่าในการเคลื่อนที่ในวันสบายๆแบบนี้

ภาพจาก DETAILS

4. Denim-Shorts เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับวันที่อากาศค่อนข้างร้อนเป็นพิเศษ หลักการเรื่องสีเหมือนกันกับกางเกงขายาว รองเท้าแนะเป็น Boat shoes หรือ Loafers ที่ไม่เนี้ยบมากนัก รองเท้าแตะคีบถึงแม้ฟังดูสบายที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดูดีที่สุดในกรณีนี้


เคล็ดลับ: หากเสื้อ Denim เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคุณ เริ่มจากสีที่เข้มก่อน แล้วจึงลองสีที่อ่อนลงมาตามความชอบ ความจริงการมีสีอ่อนและเข้มไว้อย่างละตัวก็ไม่เสียหาย คิดง่ายๆว่าเหมือนคุณมีเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มและสีฟ้านั่นแหละ

Saturday, January 8, 2011

Day 3: The Tweed Sport Jacket

Tweed คือผ้าชนิดหนึ่งที่ผ่านการ process ไม่มาก เนื้อผ้าดูแข็งและไม่เรียบเนียนเหมือนผ้าที่ใช้มาทำสูทแบบ formal ทำให้เหมาะกับการใส่ลำลองเป็นอย่างมาก


Tweed Sport Jacket เป็นเสื้อผ้าชิ้นโปรดของผมเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถใส่ได้แทบจะทุกสภาพอากาศในฤดูหนาว ตั้งแต่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาจนหิมะตก (แน่นอนว่าเสื้อผ้าข้างในต้องใส่หลายชั้นขึ้นด้วย) นั่นเป็นเพราะผ้าวูลจะช่วยรักษาอุณภูมิในร่างกายของเราไว้แม้สภาพอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ผ้าวูลถูกนำไปใช้ในทั้งสภาพอากาศแบบทะเลทรายและสภาพอากาศที่ติดลบ (Tweed อาจทำมาจากขนแกะ (wool) หรือ cashmere ก็ได้)

บางครั้งไม่ใส่เนคไทอาจจะดูโล่งๆ Pocket Square(ผ้าเช็ดหน้า)ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี

tweed ยังสามารถใช้ใส่ได้ทั้งแบบ formal และ casual อีกด้วย ในวันหยุดอาจลองนำ tweed jacket มาใส่กับเสื้อ oxford เสื้อโปโลหรือเสื้อยืด และกางเกงยีนส์หรือ chino ก้ได้ นอกจากนี้ jacket ตัวเดียวกันยังนำไปใส่กับ dress pants และเสื้อเชิ้ต ผูกเนคไทเวลาต้องเข้าประชุมหรือเสนอผลงานก็ลงตัวดูดีไม่แพ้กัน นอกจากนั้น sport jacket ยังเหมาะกับการเดินทางเพราะมันมีช่องใส่ของถึง 4 ที่ (กระเป๋าใส่ของด้านนอก 2 + ด้านใน 2) รวมถึงช่องใส่ปากกา และช่องใส่ตั๋วโดยสารอีกต่างหาก

Suede elbow patch เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ sport jacket ดู formal น้อยลง
นอกจากนั้น ยังช่วยยืดอายุของ jacket อีกด้วยเพราะข้อศอกเป็นส่วนที่ผ้าจะพังเร็วที่สุด

สำหรับในประเทศไทยนั้น tweed อาจเป็นผ้าที่ใส่ได้ไม่บ่อยนักเพราะอากาศร้อนชื้น แต่หากคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆหรืออาศัยอยู่ในต่างประเทศ tweed sport jacket เป็นเสื้อผ้าที่ผมรับรองได้ว่าใช้คุ้มแน่นอนครับ

Friday, January 7, 2011

Day 2: The V-neck Sweater

ต่อจากเมื่อวานที่เป็นวันแรกกับเสื้อผ้า (กึ่ง) ฤดูหนาว ของ thePreppist
เมื่อพูดถึง Sweater ก็คงไม่มีใครลืมแบบคอวีแขนยาวไปได้เพราะเหตุผลที่มีอยู่หลายประการด้วยกัน
1. มีความคลาสสิคในตัว
2. ใส่ทับเสื้อคอวี โปโล หรือเสื้อเชิ้ตก็ได้ (เชิ้ตต้องเป็นคนละสีกับ sweater)
3. เป็นเสื้อกันหนาวที่จับคู่กับชิ้นอื่นได้มากที่สุด

ส่วนหลักการเลือกเสื้อ Sweater คอวีนั้นคล้ายกับ Hoodie มากจนแทบจะเหมือนกันเลยทีเดียว คงจะต่างตรงแค่ว่าสำหรับ V-neck Sweater ต้องระวังเรื่อง fitting เป็นพิเศษ เพราะโดยธรรมชาติเนื้อผ้าจะขยายตัวไปตามกาลเวลา


นำ V-neck ของคุณไปจับคู่ได้กับทั้งยีนส์และ Chinos ส่วนรองเท้าก็ยิ่งมีทางเลือกมากกว่า
1. Canvas Sneakers เพื่อความสบายแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์คลาสสิค
2. Loafers แต่ไม่ใช่ในวันที่อากาศเย็นเกินไป
3. Wing tips เพื่อความ Dressy ที่มากขึ้น

เคล็ดลับ:
1. กางเกงอะไรก็ตามที่เลือกมาใส่กับ sweater คอวี ควรมี fitting ที่พอดีเป็นพิเศษ ไม่ใหญ่หรือรัดเกินไป ปลายขาห้ามกอง หากไม่ชอบใจปลายขาให้นำไปให้ช่างเก็บทรงได้ในราคาประมาณ 200 บาทเท่านั้น
2. หากไม่แน่ใจเรื่องไซส์ ให้เลือกลดไซส์ลง 1 ไซส์เพื่อ fitting ที่เข้ารูป

thePreppist's Choice: Tennis Sweater

5 Days of Winter with thePreppist

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอเริ่มปีใหม่กันด้วยซีรีส์ใหม่ Days with thePreppist ครับ โดยเราจะเริ่มจากคอลเลคชั่นในฤดูหนาวกันก่อน ช่วงนี้ก็เป็นโอกาศอันดีที่จะได้นำเสื้อกันหนาวมาใส่กัน ถึงแม้ที่กรุงเทพฯปีนี้อากาศแทบจะไม่หนาวเลย และช่วงวันหยุดยาวที่จะไปพักผ่อนอากาศหนาวๆอย่างช่วงปีใหม่ได้ผ่านไปแล้ว แต่ก็หวังว่าซีรีส์นี้จะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกคน โดยเฉพาะผู้อ่านที่มีแพลนจะไปเที่ยวต่างจังหวัดเร็วๆนี้ และผู้อ่านที่อยู่ต่างประเทศนะครับ

Day 1: The Classic Hoodie


Copyrights © by thePreppist


แน่นอนว่า Hoodie เป็นเสื้อกันหนาวยอดฮิต ถึงแม้ผมจะเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบมันนัก เพราะว่า Hoodie ใส่แล้วดูเด็ก ดูเหมือนชุดนอนของนักเรียนใน dorm แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากที่สุดชิ้นหนึ่ง วิธีใส่ให้ดูมีสไตล์ก็คือ 1. Fitting; ต้องพอดีตัว ทั้ง Hoodie เองและเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น  2. Keep it simple;  เลือกสีคลาสสิค เช่น สีน้ำเงิน สีดำ ลายไม่ควรมีมากจนดูแล้วเวียนศีรษะ จะใช้เป็นอักษรย่อของโรงเรียน/มหาลัยก็ได้  3. ถ้าใส่กับเครื่องแต่งกายที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างกางเกง Chino สีกากีก็ดูเก๋ไก๋ไม่เบา  4. ใส่ลำลองเท่านั้น ห้ามใส่เข้าประชุม หรือใส่ไปพรีเซ้นต์งาน